language :

อ่าน

เปิดบริการทุกวัน 
8.00-17.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ
02-884-7000

ที่อยู่
โรงพยาบาลเจ้าพระยา ชั้น 2

โรงพยาบาลเจ้าพระยาได้เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ โดยจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจประจำการในโรงพยาบาลตลอดเวลา เพื่อพร้อมให้บริการทุกท่านร่วมกับทีมพยาบาลและเครื่องมือที่ทันสมัย โดยทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาพร้อมให้บริการตรวจรักษาโรคหัวใจโดยเฉพาะ

บริการทางการแพทย์

  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  • ลิ้นหัวใจผิดปกติ
  • กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  • การตรวจการทำงานและความผิดปกติของหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนและความถี่สูง3มิติ (3D-Color Doppler-Echocardiogram)
  • เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ (Multi-Detector CT Scan)
  • เครื่องบันทึกจังหวะการเต้นของหัวใจต่อเนื่อง (Holter Monitoring)
  • การผ่าตัดหัวใจ
  • การตรวจสวนหัวใจ
  • การฉีดสีหัวใจ
  • การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (P.T.C.A)
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหัวใจ (Cardiac Rehabilitation)
  • ให้คำแนะนำการตรวจสุขภาพที่เหมาะสมกับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับหัวใจ

การตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง

(Echocardiogram)

           ใช้หลักการสะท้อนกลับของคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งจะถูกส่งผ่านผนังทรวงอกไปถึงหัวใจ เมื่อคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านอวัยวะต่างๆ จะเกิดสัญญาณสะท้อนกลับซึ่งแตกต่างระหว่างน้ำและเนื้อเยื่อ คอมพิวเตอร์จะนำเอาสัญญาณเหล่านี้มาสร้างภาพ ทำให้เห็นหัวใจ ลิ้นหัวใจ ผนังกั้นห้องหัวใจ นอกจากนี้ยังสามารถให้สีเพื่อดูทิศทางการไหลของเลือด วัดความเร็วของการไหลของเลือดในตำแหน่งต่างๆ ได้ Echocardiogram จึงช่วยให้ทราบขนาดหัวใจห้องต่างๆ การทำงานของลิ้นหัวใจว่ามีการตีบตันหรือรั่วหรือไม่ กล้ามเนื้อหัวใจดูความหนา ความสามารถในการบีบตัวว่ามีส่วนใดผิดปกติหรือไม่ ภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิด ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ภาวะติดเชื้อของลิ้นหัวใจ ก้อนเลือดหรือก้อนเนื้องอกในหัวใจ


การตรวจสมรรถภาพของหัวใจด้วยการออกกำลังกาย

Exercise Stress Test(EST) การวิ่งบนสายพาน

           เป็นการตรวจหาภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจว่ามีตีบหรือตัน ดูความแข็งแรงความฟิตของผู้ถูกทดสอบ และใช้ตรวจหาการเต้นผิดจังหวะของหัวใจที่อาจจะเกิดขึ้นขณะที่มีการออกกำลังกาย ว่าเป็นชนิดธรรมดาหรือชนิดร้ายแรง การทดสอบชนิดนี้ใช้ในการวินิจฉัยแยกโรคในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นจากโรคหัวใจหรือไม่ โดยการให้ผู้ถูกทดสอบออกกำลังกายโดยการเดินบนสายพานที่เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ โดยสายพานจะค่อยๆ เร็วขึ้นและชันขึ้นทีละน้อย ตามโปรแกรมที่ตั้งขึ้นไว้ เมื่ออกกำลังกายหัวใจจะเต้นเร็วขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น หากมีหลอดเลือดหัวใจตีบ เลือดจะไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้เพียงพอ จะมีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้เห็น และในบางรายจะมีอาการเจ็บหน้าอกขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การเจ็บหน้าอกและเวลาที่ใช้เดินออกกำลังกาย จะสามารถบอกความรุนแรงของโรคได้เป็นอย่างดี และยังใช้การติดตามผู้ป่วยภายหลังได้รับการรักษา ไม่ว่าจะด้วยยาหรือการขยายหลอดเลือดหรือการผ่าตัดว่ามีอาการดีขึ้นเพียงไร

การปฏิบัติตัว – ควรรับประทานอาหารอ่อนและปริมาณน้อย บางรายอาจต้องงดรับประทานอาหารก่อนถึงกำหนดเวลาทดสอบอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

ระยะเวลาในการตรวจ – เวลาในการเดินสายพานประมาณ 5-15 นาที เวลาติดตามผลประมาณ 5-10 นาที รวมเวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาที


การตรวจสวนหัวใจและฉีดสี

(Cardiac Catheterization and Angiogram)

การตรวจสวนหัวใจหรือการฉีดสี หมายถึงการใช้สายสวนขนาดเล็กใส่เข้าไปตามหลอดเลือดแดง อาจจะใส่บริเวณขาหนีบ ข้อพับแขนหรือข้อมือ ย้อนไปจนถึงจุดที่เป็นรูเปิดของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจทั้งซ้ายและขวา แพทย์จะใช้สารละลายทึบรังสีที่เราเรียกง่ายๆ ว่า สีฉีด เข้าไปทางสายสวนนั้น ไปที่หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจและใช้เครื่องเอกซ์เรย์ตรวจสอบดูขณะที่ทำการฉีดสี ว่ามีการตีบแคบหรือตันของหลอดเลือดหรือไม่ ตำแหน่งใด ตีบกี่จุด กี่เส้น ทั้งนี้นอกจากจะช่วยในการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้อย่างแม่นยำแล้ว ยังช่วยในการตัดสินใจของผู้ป่วย ญาติ และแพทย์อีกด้วย ว่าควรจะแก้ไขหรือรักษาด้วยวิธีใดให้เหมาะสม และเกิดประสิทธิผลแก่ผู้ป่วยอย่างสูงสุด เช่น การใช้บอลลูน หรือการใช้ขดลวดเล็กๆ เข้าไปขยายเส้นที่ตีบตันหรือจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดบายพาส(Bypass Graft) ปัจจุบันการตรวจสวนหัวใจทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น ใช้เวลาพักอยู่โรงพยาบาลเพียง 1 วัน และขณะที่ทำไม่ต้องใช้ยาสลบแต่อย่างใด จะใช้ยาเฉพาะที่เท่านั้น ขณะตรวจผู้ป่วยจะสามารถมองผ่านทางจอภาพได้ตลอดเวลา พูดคุยกับแพทย์ที่ทำการตรวจได้ เมื่อการตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็จะทราบผลการตรวจได้ทันที

การทดสอบภาวะการเป็นลมหมดสติ

(Tilt Table Test)

การเป็นลมคือการไม่รู้สติสัมปชัญญะอย่างเฉียบพลัน โดยไม่มีความผิดปกติของระบบประสาทเฉพาะที่ เช่น ในโรคลมชัก การตรวจ Tilt table test นี้ เป็นการตรวจพิเศษที่ใช้ตรวจในคนไข้ที่มีปัญหาเป็นลมบ่อยโดยที่ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งอาจมีสาเหตุเกี่ยวกับหัวใจหรือระบบประสาทอัตโนมัติได้ เพื่อหาทางแก้ไขหรือรักษาให้ถูกต้องต่อไป การทดสอบจะกระทำในห้องที่มีเตียงพิเศษ สามารถปรับระดับองศาของเตียงได้ โดยจะให้ผู้ถูกทดสอบนอนเอียงเป็นมุมประมาณ 70-80 องศา เป็นเวลาประมาณ 40 นาที ขณะที่มีการตรวจวัดกราฟไฟฟ้าหัวใจอย่างต่อเนื่อง วัดความดันโลหิตเป็นระยะๆ ผลการทดสอบแพทย์จะวิเคราะห์จากอัตราชีพจร ความดันโลหิต ลักษณะคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอาการของผู้ป่วย ซึ่งในรายที่เด่นชัดจะมีอาการเป็นลมหมดสติให้เห็นได้ บางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้ยาร่วมด้วย เพื่อให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำขึ้น

 

ทีมแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์โรคหัวใจ

ศ.นพ. ศุภชัย ไชยธีระพันธ์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ

พล.ต.ท.นพ. นุกูล เจียมอนุกูลกิจ

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, เวชศาสตร์ครอบครัว

รศ.นพ. ชุณหเกษม โชตินัยวัตรกุล

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, เวชศาสตร์ครอบครัว, การทำหัตถการปฏิบัติการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. สุทธิพงศ์ ทัศนียพันธุ์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, การทำหัตถการปฏิบัติการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ยวดยง เธียรตระวัน

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, การตรวจสวนหัวใจและขยายหลอดเลือดหัวใจ

ศ.นพ. รุ่งโรจน์ กฤตยพงษ์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, การตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ

ผศ.นพ. วิทยา ไชยธีระพันธ์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, ภาพวินิจฉัยโรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. จีระศักดิ์ สิริธัญญานนท์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, การทำหัตถการปฏิบัติการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. อนุรักษ์ เจียมอนุกูลกิจ

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, การทำหัตถการปฏิบัติการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. เกียรติพงษ์ พละศักดิ์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ

พญ. ปาลิตา ไทยแท้

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ, ภาพวินิจฉัยโรคหัวใจและหลอดเลือด

รศ.นพ. สัชชนะ พุ่มพฤกษ์

การตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ

รศ.พญ. อริศรา สุวรรณกูล

การตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ

ความรู้