จากสถิติล่าสุดที่เปิดเผยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันมะเร็งโลก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พบสถิติโรคมะเร็งในประเทศไทยจัดเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุข โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 80,000 คนต่อปี
โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก
- มะเร็งตับและท่อน้ำดี
- มะเร็งปอด
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง
- มะเร็งปากมดลูก
หากกล่าวถึงโรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์สตรีแล้วนั้น โรคที่พบบ่อยที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกจากสถิติล่าสุดของ IARC ลงวันที่ 10 มีนาคม 2566 พบสถิติผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ของไทยปีละ 9,158 ราย และอัตราการเสียชีวิต 4,705 รายต่อปี โดยโรคมะเร็งในระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรีหลายโรคกว่าจะตรวจพบหรือรอให้มีอาการนั้น บางรายอาจมีการกระจายของโรคไปแล้ว โอกาสการรักษาให้หายขาดจึงทำได้ยาก
รู้ก่อน
เนื่องจากอวัยวะสืบพันธุ์สตรีมีทั้งส่วนที่มองเห็นได้จากภายนอกร่างกายและส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปในอุ้งเชิงกราน หากคำนึงถึงสถิติโรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่พบบ่อย มักเป็นตำแหน่งอวัยวะที่อยู่ลึกเข้าไปในร่างกายที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก โดยเฉพาะปากมดลูกจะอยู่ลึกเข้าไปด้านในสุดของช่องคลอด ส่วนมะเร็งรังไข่และมดลูก อยู่ในอุ้งเชิงกรานไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกร่างกาย ดังนั้นการค้นหาหรือคัดกรองมะเร็งในกลุ่มนี้จึงมีความจำเป็นต้องตรวจหารอยโรคด้วยการตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจพิเศษเพิ่มเติมก่อนที่รอยโรคจะก่ออาการ จะทำให้สามารถวินิจฉัยมะเร็งระยะต้นของระบบสืบพันธุ์สตรีได้
รักษาไว
การรักษาโรคมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี หากตรวจพบตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง (preinvasive disease) สามารถทำการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนการกลายเป็นมะเร็งระยะลุกลาม แต่หากกรณีกลายเป็นมะเร็งระยะลุกลามแล้ว การรักษาหลักในปัจจุบันมักเป็นการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง การใช้ยาพุ่งเป้า (Targeted therapy) ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรคมะเร็งนั้นๆ
มีโอกาสหาย
มะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี กรณีเป็นระยะก่อนมะเร็ง ได้แก่ รอยโรคก่อนเป็นมะเร็งของมะเร็งปากมดลูก การรักษาในปัจจุบันทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาด และไม่กลายเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้ นอกจากนี้ มะเร็งรังไข่ และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะต้น ผลการรักษาด้วยการผ่าตัด เคมีบำบัด ยาพุ่งเป้า และ/หรือ รังสีรักษา ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากมีโอกาสหายขาดจากโรคได้
ป้องกันได้
“มะเร็งในระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรีสามารถป้องกันได้”
- มะเร็งปากมดลูก สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน เอชพีวี (HPV vaccine) , การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจหาเชื้อเอชพีวี และ/หรือ การตรวจทางเซลล์วิทยา สามารถตรวจรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งและรักษา ป้องกันไม่ให้กลายเป็นมะเร็งได้
- มะเร็งรังไข่ สามารถป้องกันได้โดยเฉพาะกรณีผู้ตรวจพบการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็ง เช่น BRCA mutation เป็นต้น ก็ทำการตรวจคัดกรอง หรือผ่าตัดชนิด risk reduction surgery เพื่อลดโอกาสการกลายเป็นมะเร็งได้ รวมถึงการตรวจภายในประจำปี อัลตราซาวนด์หาความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เป็นต้น
คุณภาพชีวิตดี
เทคโนโลยีการรักษามะเร็งในระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรีในปัจจุบัน มีการรักษาแบบอนุรักษ์ (Conservative surgery) โดยเฉพาะโรคมะเร็งระยะต้นๆ ที่ทำการผ่าตัดเฉพาะอวัยวะที่ผิดปกติและรับเคมีบำบัดเพิ่มเติม ทำให้ผู้ป่วยสามารถยังเก็บรักษาอวัยวะสืบพันธุ์บางส่วนได้ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ บางรายสามารถมีบุตรหลังการรักษามะเร็งหายได้ และเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้อง ไปจนถึงการผ่าตัดผ่านหุ่นยนต์ (Robotic surgery) ที่นำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งทางนรีเวชได้หลายชนิด ทำให้ผู้ป่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด แผลขนาดเล็ก ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดลดลง ระยะเวลาพักฟื้นสั้น สามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ดังนั้น ด้วยเทคโนโลยีความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันทำให้การตรวจคัดกรองมะเร็ง วัคซีนป้องกันมะเร็ง การรักษาอย่างครบวงจร การรักษามะเร็งในรูปแบบใหม่ๆ การผ่าตัดผ่านกล้อง ยาเคมี ยาพุ่งเป้าเพื่อรักษามะเร็งตัวใหม่ๆ ทำให้สตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ห่างไกลมะเร็งได้ และความเป็นผู้หญิงกลับคืนมาได้ในผู้ป่วยมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี
บทความโดย
พญ.สุขุมาลย์ สว่างวารี
สูตินรีแพทย์ และมะเร็งนรีเวชวิทยา
หน่วยมะเร็งนรีเวช
โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งนรีเวช มะเร็งในผู้หญิง
สอบถามเพิ่มเติมที่
หน่วยมะเร็งนรีเวช
ชั้น 2 โรงพยาบาลเจ้าพระยา
โทร : 02-022-7641 หน่วยมะเร็งนรีเวช / ศูนย์สูตินรีเวช