โรคหืด หรือบางคนเรียกว่าโรคหืดหอบนั้น เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ซึ่งเริ่มต้นมักไม่มีอาการใดๆ ต่อมาจะเริ่มมีอาการ ไอ หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม มีเสียงวี๊ดเวลาหายใจ เหนื่อยง่ายมากขึ้น
ทำไมถึงถูกละเลย มีหลายเหตุผลที่โรคหืดถูกละเลยดังนี้
- อาการเป็นพักๆ ไม่ได้เป็นตลอด
- บางครั้งมีแค่อาการไอนานๆ หลังจากการเป็นหวัด
- ระยะเริ่มแรกในผู้ใหญ่บางราย แค่ออกกำลังแล้วเหนื่อยเร็วขึ้น
- เข้าใจว่าหืดเป็นในเด็กเพียงอย่างเดียว
โรคหืดเป็นโรคที่พบได้บ่อย อุบัติการณ์ในประเทศไทยมีถึง 7% คนไทย 100 คน พบโรคหืดได้ถึง 7 คน และพบมากใน 2 ช่วงอายุ คือ วัยเด็ก และ วัยกลางคน โดยไม่จำเป็นต้องมีประวัติโรคหืดในวัยเด็กมาก่อนเลย ในปัจจุบันแนวโน้มโรคหืดเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากมลภาวะทางอากาศที่เพิ่มขึ้น
ใครบ้างที่ควรสงสัยว่าเป็นหืด
- คนที่มีอาการดังต่อไปนี้ ไอบ่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ, ไอนานหลังเป็นหวัด, เหนื่อยง่ายมากขึ้น, รู้สึกเสมหะเยอะ, ไอตอนกลางคืน หรืออากาศเย็น, มีเสียงวี๊ดเวลาหายใจ
- คนที่มีญาติเป็นหืด
- คนที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศที่ยังมีอาการไอ เหนื่อย แม้ว่ารักษาโรคภูมิแพ้แล้ว
ข้อเสียหากไม่ได้รับการรักษา มีหลายประการ เช่น เสียงาน ทำงานได้ไม่เต็มที่ เสียเงินมากหากหืดกำเริบเฉียบพลัน เสียเวลาต้องนอนโรงพยาบาล เสียบุคลิก บางครั้งหากปล่อยไว้นานและเกิดกำเริบเฉียบพลันรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคหืดเกิดจากการอักเสบเรื้อรัง โดยมีสิ่งกระตุ้นทำให้แพ้ และทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม การรักษาประกอบด้วย 2 อย่าง คือ
- การรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการ
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ กำจัดสิ่งที่สามารถทำให้แพ้ออกจากชีวิตประจำวัน เช่น สัตว์เลี้ยงจำพวก แมว สุนัข กำจัดไรฝุ่น กำจัดแมลงสาบและสถานที่อยู่อาศัยของแมลงสาบ และที่สำคัญที่สุดคือ การไม่สูบบุหรี่ รวมถึงการหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ หรือควันไอเสียต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้หืดแย่ลงมาก และตอบสนองต่อการรักษาน้อยลง ยาที่ใช้ป้องกันควบคุม มีหลายชนิด ยาที่ขาดไม่ได้เลยคือ ยาสูดสเตียรอยด์ ที่ลดการอักเสบของหลอดลม ถ้าใช้ถูกวิธีจะทำให้การอักเสบลดลงได้มาก และผลข้างเคียงน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับยากินสเตียรอยด์ในระยะยาว เป็นยาที่ต้องใช้ตลอดไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม ยากินควบคุมมีหลายชนิดใช้เพื่อเสริมยาสูด ยาเหล่านี้ต้องใช้ประจำเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการ
- การรักษาเพื่อบรรเทาอาการ
เป็นการรักษาเมื่อมีอาการของโรคหืดชนิดเฉียบพลันเกิดขึ้นแล้ว ประกอบด้วย ยาสูดขยายหลอดลม และสเตียรอยด์ชนิดกินระยะสั้น ซึ่งจะใช้ก็ต่อเมื่อมีอาการเท่านั้น แต่คนมักเข้าใจผิดว่าต้องสูดยาขยายหลอดลมเป็นประจำ เพราะเมื่อสูดเข้าไปจะรู้สึกหายใจได้ดี อีกทั้ง ไอลดลงเร็ว ขอให้เข้าใจใหม่ว่าถ้าคุณยิ่งใช้ยาชนิดนี้บ่อยเท่าไรแสดงว่าการควบคุมหืดแย่มากเท่านั้น
การรักษาโรคหืดมีเป้าหมายการรักษา คือ ลดการกำเริบของหืด ลดอาการของโรคให้น้อยที่สุด ถ้าไม่มีอาการเลยแสดงว่าการควบคุมอยู่ในเกณฑ์ดี ปัญหาอีกอย่างในการรักษาโรคหืด คือ การหยุดยาควบคุมเมื่ออาการดีขึ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด และทำให้เกิดผลเสียตามมา
อาการของหืดเกิดจากหลอดลมบีบตัว แต่ถ้ามีการอักเสบเรื้อรังนานๆ จะเกิดการหนาตัวของหลอดลม ทำให้มีอาการมากขึ้นและตอบสนองต่อยาขยายหลอดลมน้อยลง และในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่ทำให้หลอดลมหนาน้อยลงที่ดีเลย ดังนั้นการรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกัน
โรคหืดไม่ใช่โรคที่น่ากลัว หากไม่ละเลยและหมั่นดูแลตนเองให้ถูกวิธี หากพบตั้งแต่แรก และปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง เคร่งครัด คุณก็สามารถปลอดจากอาการของโรคหืดได้